ไซม่อน จอร์แดน เซียนวงการลูกหนังชื่อดัง ออกมาแสดงทรรศว่า มาร์คัส แรชฟอร์ด ควรจะตอบแทน ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยการขยายสัญญาฉบับใหม่เป็นของขวัญให้สโมสรที่คอยดูแลในช่วงที่เขาทำผลงานในช่วงดรอปก่อนหน้านี้ , หัวหอกแดนผู้ดีกำลังโชว์ฟอร์มเดือดในฤดูกาลนี้หลังซัดไปแล้ว 24 ประตูพร้อมกับ 8 แอสซิสต์จากการลงสนาม 36 นัด , โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็เข้าสู่วง 18 เดือนสุดท้ายในสัญญาฉบับปัจจุบันกับปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้ว เอริก เทน ฮาก บิ๊กบอสก็ได้ออกมายอมรับว่า การเก็บดาวยิงวัย 25 ปีรายนี้เอาไว้คือภารกิจสำคัญของพวกเขา , ไซม่อน จอร์แดน กล่าวว่า แรชฟอร์ด ควรรีบต่อสัญญาฉบับใหม่กับต้นสังกัด เพื่อเป็นการตอบแทนปีศาจแดงที่คอยดูแลเขา แม้ในช่วงที่เขาทำผลงานได้ไม่ดีพอ , “หากเขายังมีความชื่อสัตย์ , ซึ่งเป็นคำที่ไม่ได้อยู่ในวงการฟุตบอล , เขาก็ควรเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับ ยูไนเต็ด เพราะสโมสรโอบอุ้มเขามาตลอดระยะเวลา 18 เดือน , เขาทำอะไรไม่ได้เลยในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาคุณอาจโทษผู้จัดการทีม ยูไนเต็ด อย่างที่ผมทำเพราะคิดว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ น่าหัวเราะเยาะ จากแนวทางที่เขาจัดการกับนักเตะเหล่านั้น เขาสร้างวัฒนธรรมที่ทำให้สโมสรกลายเป็นฝ่ายที่ต้องขอร้องให้พวกเขาลงเล่น ไม่ใช่ทางกลับกัน ” จอร์แดน กล่าวกับ talkSPORT” , เขากลับมาจากการเตะยูโร แล้วตัดสินใจว่าอยากพักร้อนก่อนเข้ารับการผ่าตัด สำหรับผมมันน่ารำคาญจนรจิตนาการไม่ออกเลย เพราะเขาควรกลับมา , เข้ารับการผ่าตัด และ เตรียมพร้อมสำหรับ ยูไนเต็ด ไม่ใช่ไปพักร้อนแล้วค่อยกลับมาผ่าตัด , ประเด็นคือเขาไม่ได้กลับมา และ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทำอะไรไม่ได้ มันมีทางเลยที่คุณมอบสัญญาให้เขาหากพิจารณาจากผลงานเมื่อปีก่อน , ตอนนี้คุณอยู่ในสถานการณ์ที่เวลามันลดน้อยลงทุกที คุณเข้าสู่ช่วง 18 เดือนสุดท้าย และ อยากทอบสัญญาฉบับใหม่ให้เขา เขาอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ , มันต้องมีสมดุล หากเขาเป็นผลผลิกจากอคาเดมี่ของ ยูไนเต็ด และเข้าใจว่าโอกาสที่ได้รับ และการดูแลตลอดช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา เขาก็จะเซ็นสัญญาใหม่ , ได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มขึ้น และฝากอนาคตไว้กับ ยูไนเต็ด , นั้นคือสิ่งที่เขาควรจำมอบมันให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังกลับมา ตอนนี้พวกเขามีโค้ชที่ดูเหมือนว่าจะเข้าใจแนวทางของ ยูไนเต็ด , แรชฟอร์ด และ การเจราของเขาควรได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด แต่มันก็ต้องแลกด้วยเงินจำนวนมหาศาล เขาทำผลงานไม่สมค่าเหนื่อยมา 18 เดือน แล้วมาทำได้คุ้มค่าสัก 6 เดือนและเขาก็ได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นมา นี่คือความวิปริตของการเงินในโลกฟุตบอล”