แฟร้ง แลมพาร์ด นายใหญ่ของท็อฟฟี่สีน้ำเงิน ให้คำมั่นว่าจะอยู่ช่วยเอฟเวอร์ตัน ตราบเท่าที่สโมสรต้องการ พร้อมจะกอบกู้ชื่อเสียงกลับมาไม่ว่าจะอยู่ดิวีชั่นไหนก็ตาม
อดีตกองกลางของสิงห์บูล เชลซี ประกาศรีไทน์เมื่อปี 2017 ก่อนจะมารับงานคุมทีม ดาร์บี้ เคาน์ตี้ และยังทำผลงานที่เรียกได้ว่าไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไหร่ แต่แลมพาร์ดเองก็มีส่วนสำคัญในการพาแกะเขาเหล็ก
ทยานไปถึงรอบเพลย์ออฟเป็นครั้งแรกในรอบ 5ปี และหลังจากนั้น เมาริซิโอ ซาร์รี่ ได้อำลาทีมไป สิงห์บูลนั้นก็ต้องหากุนซือเข้ามาทดแทน และ แฟนๆ ต่างเรียกร้องให้ แลมพาร์ด เข้ามาคุม แม้จะมีกุนซือชื่อดังมากๆ ที่มีข่าวเข้ามาทำงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ตาม ถึงอย่างนั้นแฟนๆ ต่างก็คาดหวังให้สโมสรดึงตัว แลมพาร์ด กลับมาทำงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งในฐานะ ผู้จัดการทีม
และก็เป็นไปตามคาดเมื่อฤดูกาล 2019/20 สโมสรได้ประกาศแต่งตั้ง แฟร้ง แลมพาร์ด เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ แต่ผลงานก็ไม่ได้เป็นที่น่าพอใจมากนัก แต่ก็ยังดีที่ แลมพาร์ด สามารถพาทีมคว้าตั๋ว UCL ได้สำเร็จ และยังพาทีมทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศ เอฟ เอคัพ ก่อนจะแพ้ให้คู่แข่งร่วมเมืองอย่าง อาร์เซน่อลไป
พอมาถึงฤดูกาล 2020/21 เชลซีได้ทุ่มงบมหาศาลให้กับแลมพาร์ด เนื่องจากสโมสรไม่ได้เสริมทัพมาถึง 1ปี การเสริมทัพอย่างบ้าคลั่งในครั้งนี้เพื่อหวังที่จะให้เชลซีประสบความสำเร็จในยุคของ แลมพาร์ด ด้วยการเสริมทัพที่เรียกได้ว่าโหดสุดๆ ย่อมมีการคาดหวังจากหลายๆ ส่วนเป็นธรรมดา โดย 11นัดแรก แลมพาร์ดพาทีมเก็บไปได้ถึง 22คะแนน และยังทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีก
แต่แล้วอยู่ๆ ผลงานที่เคยว่าดีกลับถดถอยลงเรื่อยๆ โดยนัดที่ 12-19 แลมพาร์ดพาทีมเก็บได้เพียง 7คะแนน จาก 8นัด นั้นก็เป็นฉนวนที่ทำให้สโมสรประกาศแยกทางกับแลมพาร์ดในที่สุด และเป็นทางด้าน โธมัส ทูเคิ่ลที่มารับเผือกร้อนนี้ต่อจาก แลมพาร์ด
จากการว่างงานถึง 1ปี ของแลมพาร์ด จนกระทั่งสโมสร เอฟเวอร์ตัน ของกุนซืออย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ ที่กำลังประสบปัญหาฟอร์มตก จนทำให้ทีมอยู่ในโซนตกชั้น ทำให้ เบนิเตซ ได้แยกทางกับ เอฟเวอร์ตันในที่สุด
และเมื่อปลายเดือนมกราคม ปี 2022 สโมสรได้ประกาศคว้าตัว แฟร้ง แลมพาร์ด กุนซือว่างงานเข้ามารับช่วงต่อ แต่ทว่า ดันมีดราม่าเล็กๆ เนื่องจากสโมสรกำลังจะคว้าตัวนายใหญ่ชาวโปรตุเกส อย่าง วิเตอร์ เปไรร่า แต่แล้วก็มีเสียงจากแฟนบอลต่อต้านอย่างหนัก จึงทำให้สโมสรเบนเข็มไปที่ แลมพาร์ด แทน
การมารับงานทีมที่กำลังหนีตกชั้นนั้นเป็นเรื่องที่ยาก ไม่ใช่เพียงแค่จะมาวางแท็คติกการเล่น แต่ต้องใช้การปลุกเร้านักเตะ การกระตุ้นนักเตะให้มีแรงในการต่อสู้เพื่อที่จะรอดตกชั้น แต่นั้นไม่ได้เป็นสิ่งที่โดดเด่นในตัว แลมพาร์ดเลย แต่ แลมพาร์ด มีจุดเด่นในการดันดาวรุ่ง การใช้พลังหนุ่มในการขับเคลื่อนทีม ซึ่งในตอนนี้งานในถิ่น กูดิสัน พาร์คนั้น หนักหนาสุดๆ
จากการรับงานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมกรา จนถึงตอนนี้ ผลงานของ กุนซือวัย 43ปี นั้นก็ยังเป็นฟอร์มที่ยังไม่น่าพอใจซักเท่าไหร่ ทีมยังไม่สามารถหลุดจะโซนท้ายตารางได้เลย
และล่าสุด แลมพาร์ด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ ให้คำมั่นสัญญาว่าจะอยู่ช่วยเอฟเวอร์ตัน ตราบเท่าที่ทีมต้องการ เจ้าตัวพร้อมจะอยู่ช่วยทีมแม้ทีมจะตกไปอยู่ดิวีชั่นไหนก็ตาม
“สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือ ผมรักทุกนาทีที่ได้อยู่กับสโมสรแห่งนี้ บางครั้งมีคนภายนอกถามผม อาจจะเพราะที่เราอยู่ว่า คุณมีความสุขกับงานที่ทำอยู่หรือเปล่า”
“แน่นอน ผมชอบงานนี้ ผมได้รับการตอนรับอย่างไม่น่าเหลือเชื่อจากแฟนบอล และผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้สโมสรแห่งนี้กลับมาอยู่ในจุดที่ผมนั้นต้องการ”
“ผมจะทำทุกอย่างตามที่ทางสโมสรต้องการให้ผมอยู่ที่นี่ ผมสามารถพาพวกเขาไปในจุดที่ผมคิดว่าเราสามารถไปถึงได้” แลมพาร์ดกล่าว
